เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทย ขยายตัว 2.7% (YoY) ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 1.4% (YoY) โดยปัจจัยหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ช่วยสนับสนุนให้ภาคการบริการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลดลง
ด้านการผลิต ภาคบริการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวคำพูดจาก สล็อต888
และภาคเกษตรที่เร่งตัวขึ้น 7.3% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.4% เนื่องจากผลผลิตพืชหลัก และผลผลิตปศุสัตว์ที่ขยายตัว เช่น อ้อม ปาล์มน้ำมัน ข้าวเปลือก ผลไม้ สุกร และไก่เนื่อ ส่วนผลผลิตประมงลดลง
ขณะที่ผลผลิตภาคนอกเกษตร ขยายตัว 2.3% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 1.2% เป็นผลจากภาคบริการขยายตัว โดยสาขาที่ขยายตัวดี ประกอบด้วย สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และสาขาการก่อสร้าง
ทั้งนี้การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชนขยายตัว 5.4%, การลงทุนรวมขยายตัว 3.1% การส่งออกสินค้า และบริการขยายตัว 3.0%
ขณะที่การใช้จ่ายเพื่อการบริอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาล ลดลง 6.2% และการนำเข้าสินค้าและบริการลดลง 1.0%
กรุงศรี หั่นเป้า GDPไทย ปีนี้66 เหลือ 3.3% เหตุรัฐใช้จ่ายลด-การลงทุนล่าช้า
ท่องเที่ยวพระเอกดันเศรษฐกิจ "กสิกรไทย" คงเป้า จีดีพีไทยปี 66 โต 3.7%
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.7-3.7% จากปัจจัยสนับสนุนของการฟิ้นตัวการท่องเที่ยว การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคในประเทศ และการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ
นอกจากนี้คาดว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.5-3.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.4% ของ GDP